" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิอิโสตัง พุทธปิติอิ "
คำแปล
“ ขออัญเชิญคุณแห่งพระพุทธเจ้าอันวิเศษคุณแห่งกระแสพระนิพพานอันประเสริฐซึ่งพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงสรรเสริญแล้วจงเป็นมหาวิภูษิตาภรณ์ประดับด้วยมงกุฎทิพย์และเครื่องทรงแห่งพระเจ้ามหาจักรพรรดิครอบคลุมข้าพเจ้าตลอดกาลทุกเมื่อเทอญ”
เคล็ดในการสวดคาถา “มงกุฎพระพุทธเจ้า”
หลักในการว่าคาถาให้มีความศักดิ์สิทธิ์นั้น มีพื้นฐานจาก " จิต " เป็นสำคัญ หากจิตมีสมาธิสูง
ตั้งมั่นคาถาก็ยิ่งทรงความศักดิ์สิทธิ์ ดังนั้นระหว่างที่ว่าคาถาให้ จับลมหายใจสบายพร้อม ๆ กับ
การภาวนาคาถาบทนี้ เป็นขั้นที่ 1 ระดับสูงกว่านี้ ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ท่านใช้คาถาบทนี้
โดยมีนิมิต กำกับคาถา โดยทรงพุทธนิมิต ไว้ดังนี้ โดยตั้งกำลังใจว่าเรา ขอกราบอาธารณาบารมี
พระพุทธเจ้าเสด็จประทับเหนือเศียรเกล้าของข้าพเจ้าเพื่อ.......ปกปักรักษาคุ้มครองข้าพเจ้าด้วยเทอญ
จากนั้นทำตามได้เลยครับ
" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ "
เมื่อว่าคาถาจบ คาบที่ 1 ก็กำหนดอาราธณาพุทธนิมิต
อยู่เบื้องหน้าของศีรษะของเรา และ ทรงพุทธนิมิตนี้เอาไว้
" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิอิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตัง พุทธปิติอิ "
ว่าคาถาจบที่ 2 ก็กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์หนึ่ง อยู่เบื้องขวา
ของศีรษะของเรา และ ทรงพุทธนิมิตทั้งหมดเอาไว้
" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ "
ว่าคาถาจบที่ 3 ก็กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ด้านหลังของศีรษะเรา และ ทรงพุทธนิมิตเอาไว้
" อิติปิโสวิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ "
ว่าคาถาจบที่ 4 ก็กำหนดพุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ด้านซ้าย และ ทรงพุทธนิมิตเอาไว้
" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ " ว่าคาถาจบที่ 5 ก็กำหนด
พุทธนิมิตอีกพระองค์อยู่ด้านตะวันออกเฉียงเหนือของศีรษะของเรา และ ทรงพุทธนิมิตเอาไว้
" อิงติปิโสวิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ " ว่าคาถาจบที่ 6 ก็กำหนด
พุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ด้านตะวันออกเฉียงใต้ของศีรษะของเรา และ ทรงพุทธนิมิตเอาไว้
" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนาพุทธตังโสอิ อิโสตัง พุทธปิติอิ " ว่าคาถาจบที่ 7 ก็กำหนด
พุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ด้านตะวันตกเฉียงใต้ของศีรษะของเรา และ ทรงพุทธนิมิตเอาไว้
" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเส พุทธนาเมอิ อิเมนาพุทธตังโสอิ อิโสตัง พุทธปิติอิ " ว่าคาถาจบที่ 8 ก็กำหนด
พุทธนิมิตอีกพระองค์ อยู่ด้านตะวันตกเฉียงเหนือของศีรษะของเรา และ ทรงพุทธนิมิต
เอาไว้ทั้ง 8 พระองค์เรียงวนรอบศีรษะของเรา
" อิติปิโส วิเสเสอิ อิเสเสพุทธนาเมอิ อิเมนา พุทธตังโสอิ อิโสตังพุทธปิติอิ "ว่าคาถาจบที่ 9 กำหนด
พุทธนิมิตพระพุทธเจ้าองค์ใหญ่เสด็จประทับกึ่งกลางศีรษะเป็นยอดมงกุฎเปล่งประกายพรึก
ทุกๆพระองค์เป็น มงกุฎเพชรพระพุทธเจ้าทั้งเก้าพระองค์บนเศียรเกล้าของเรา
เมื่อทำได้แล้วจะเข้าใจได้ทันทีว่าคาถานี้ทำไมจึงมีชื่อว่า คาถามงกุฎพระพุทธเจ้า และ ให้ทรง
มงกุฎพระพุทธเจ้านี้เอาไว้ตลอดเวลาเป็นการทรงอารมณ์ในพุทธานุสตกรรมฐาน
"...โบราณว่าไว้ใบหน้าเป็นศรี (ราศี) ที่สำคัญของร่างกาย ชาวไทยเราจึงเชื่อกันว่า การล้างหน้าเป็น การชำระล้างร่างกายส่วนที่สำคัญที่สุด บทสวดมนต์ที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับสวดขณะทำความสะอาดใบหน้าและร่างกายในยามเช้าคือคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า เพราะเชื่อกันว่าเป็นยอดแห่งพระคาถาด้านเมตตามหานิยม และช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัย..."
เรื่องเล่าต่างๆ ที่เกิดจากอานิสงส์ของคาถามงกุฎพระพุทธเจ้า
“...สำหรับอานิสงค์ของคาถานี้เป็น คาถาครอบจักรวาล เรานำไปใช้ในทางกุศลได้
ทุก ๆ เรื่อง โดยมีประวัติ ของการใช้คาถานี้มายาวนาน ส่วนใหญ่ในราชสำนัก แม้ พระบาทสมเด็จ
พระจุลจอมเกล้า รัชกาลที่ 5 ท่านก็ทรงพระคาถานี้เป็นประจำมีที่ปรากฏเป็นปาฏิหาริย์ ก็ครั้งที่
ถูกทูตต่างประเทศนำม้าเทศตัวใหญ่แต่เป็นม้าพยศ มาท้าให้ท่านทรงพระองค์ท่านได้ใช้พระคาถานี้
เสกหญ้าให้ม้ากินก่อนม้าตัวนั้นก็กลับเชื่องให้พระองค์ทรงม้า แต่โดยดีเรื่องนี้ทำให้รัชกาลที่ 6
ผู้ทรงสร้างพระบรมรูปทรงม้าถวายเสด็จพ่อของท่าน ได้ทรงแฝงนัยยะแห่งกฤษดาอภินิหารนี้เพื่อเทิดทูนพระคุณท่านเอาไว้”
“.....พระคาถามงกุฏพระพุทธเจ้าหรืออิติปิโสเรือนเตี้ยนี้มีอานุภาพมาก เป็นพระคาถาในตำรับพิชัยสงครามสำหรับแต่งทัพ โดยกำหนดจิตคุ้มเหล่าทหารด้วยพระคาถานี้สายตาไปถึงไหนอานุภาพพระคาถาคุ้มครองถึงที่นั้นแล.....”
“.....เคยมีประสบการณ์คือไปพักที่รีสอร์หรูแห่งหนึ่งมีสปาและสนามกอล์ฟด้วยบอกใบ้แค่นี้ ไปพัก 3 หลังพอตกกลางคืนรู้สึกมั่นทะแม่ง ๆ แปลก ๆ มองออกไปบ้านหลังที่อยู่ข้างหน้ามันชอบกล ๆไฟดับ ๆ ติด ๆ เลยกำหนดจิตสวดพระคาถาตามตำราพิชัยสงครามกำหนดอาณาเขตขอบารมีพระและพระคาถาคุ้มครองเป็นมณฑล ....ผลปรากฏว่าตอนเช้าเพื่อนมาเล่าว่าบ้านหลังที่เค้าพักมีคนมาเขย่าบ้านเดินรอบบ้านทำนองนี้ทั้งคืน ขนหัวลุกมาก แต่บ้านเราพักหลับสบายไปเลย.....”
“.....ของผมมีประสบการณ์กับพระคาถานี้คือเวลาทำกรรมฐานแล้วต้องการจะแผ่เมตตากุศลไปให้กว้างที่สุดนั้นเดิมก่อนนี้ผมทำได้ไม่คล่องเลยแต่พอสวดพระคาถามงกุฏพระพุทธเจ้า 9 จบ โดยอาราธนาพุทธนิมิตรพระพุทธเจ้า 9พระองค์มาประดิษฐานที่ 8 ทิศรอบมงกุฏศีรษะและองค์สุดท้ายคือสมเด็จองค์ปฐมฯอาราธนามาประดิษฐานที่ตำแหน่งยอดมงกุฏแล้วขอบารมีพระท่านช่วยแผ่พลังเมตตากุศลไปทั่วจักรวาลความรู้สึกของจิตคือพลังบุญแผ่ไปได้ทั่วทั้งจักรวาล 3 โลกธาตุและหนึ่งพระนิพพานเลยครับ.....”
“.....อนุโมทนาคับ ...ผมจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเริ่มท่องพระคาถานี้มาตั้งแต่เมื่อไหร่ นานมากแล้วอ่ะคับ...แต่ผมก็ไม่เคยประสบอุบัติเหตุร้ายแรงเลย.. แล้วก็เวลาไปไหนมาไหน เกิดอะไรขึ้นเช่นจิตตก ผีอำ ผมก็นึกท่องในใจคับ ยึดพระคาถานี้ไว้ก่อน อยู่ร่มเย็นมาจนบัดนี้คับ.....”
“.....ผมใช้คาถานี้ดั่งเป็นคาถาประจำตัวผมเลยคับเวลาจะใช้นั่งผมจะกำหนดจิต เป็นเหมือนมงกุฎหรือวิมานมาครอบตัวเราหรืออยู่บนหัวเราคอยป้องกันสิ่งชั่วร้าย.....”
“.....เวลาต้องการเข้าสมาธิอย่างเร็วๆ ท่องแล้วได้ผลครับ... จิตแจ่มใสเร็วมาก.....”
“.....คาถานี้ศักดิ์สิทธิ์มากค่ะเคยลองตอนที่เพื่อนพาไปดูดวง เพื่อนบอกว่าแม่นมาก แต่พอถึงเราทายไม่ถูกเลยสักอย่าง เพราะท่องคาถานี้อยู่ ทุกคนแปลกใจถามว่าเป็นได้งัยเราเลยบอกว่า เราท่องบทนี้อยู่ เค้าเลยไม่สามารถดูดวงเราได้เลยเพื่อนก็เลยท่องกันเลยแต่นั้นมา.....”
“.....อนุโมทนาบุญด้วยครับ ผมก็ใช้คาถานี้ในการนั้งสมาธิและเดินจงกรมมาเป็นเวลานานแล้วครับรู้สึกว่าจะช่วยทำให้จิตเป็นสามาธิได้เร็วครับนอกจากนี้ยังใช้ในการสวดแผ่บุญกุศลไปให้แก่ทุกภพภูมิที่ปรารถนาบุญให้ได้รับได้ด้วยนะครับสาธุ.....”
“.....อา ผมบอกว่า พระอาจารย์สายพระป่า บอกมาว่า คาถานี้นอกจากบูชาพระ แล้ว ยังสามารถใช้ท่อง เพื่อ อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุและบูชาพระบรมสารีริกธาตุได้ครับเคยท่องอาราธนา ท่าน 3 จบ แล้วมาพบเจอคนที่กำลังแจกพระบรมสารีริกธาตุ ขององค์ปัจจุบันครับ เลยได้ขอมาบูชา สัก ชุดหนึ่งครับ.....”
“.....คาถานี้ดีจริงและศักดิ์สิทธิ์ มากเป็นอีกคนที่สวดมนต์ภาวนาแทบทุกวันและมีอยู่ครั้งกำลังจะขึ้นเตียงเย็บแผลผ่าตัดที่ รพ.พญาไท1คิดว่ากลัวผ่าตัดกลัวเย็บแผล หากสวดพระคาถาเอาสั้น ๆ ก็บทนี้ละ ท่านเชื่อไหมพอสวดเสร็จ คุณหมอไม่สามารถเย็บแผลที่หน้าได้ื ผลหรือคะเข็มงอแทงไม่เข้าดิฉันฉีดยาชาไม่ได้สลบจึงได้ยินถนัด หมอบอกกับพยาบาลว่ารพ.เราทำไมใช้เข็มเล็กบางเกินรึเปล่าเนี่ยเข็มถึงงอพยาบาลตอบก็ใช้แบบนี้ทุกครั้งก็นี่เย็บที่หน้านะคุณหมอรีบตัดบทบอกรีบไปเอาเข็มที่ใหญ่ขึ้นมาจะได้เย็บได้ไม่งออีก ดิฉันนึกรู้เลยตายละเมื่อก่อนขึ้นเตียงเย็บแผล ดิฉันดันสวดมนต์บทมงกุฏพระพุทธเจ้าและเผอิญเคยเข้าพิธิยันต์เกราะเพชรสมัยหลวงพ่อฤาษีลิงดำเลยรีบนึกในใจขอคลายทันทีบอกขอให้คุณหมอเย็บแผลได้ด้วยเทอญขอออกจากพระคาถาก่อนคะจะเย็บแผล พออธิฐานเสร็จก็สามารถเย็บแผลได้พร้อมทั้งเปลี่ยนเข็มเล่มใหม่
จึงอยากฝากเตือนขอให้สวดได้ทุกที่นะคะยกเว้นจะเย็บแผลละคะ ไม่ควรสวด.....”
สุดท้ายนี้.....ขออนุโมทนากับผู้สวดมนต์ทุกๆท่านด้วยนะครับ ทั้งคาถามงกุฏพระพุทธเจ้า และทุกๆพระคาถา
เหนือสิ่งอื่นใด....ไม่ว่าจะเป็นคาถาใดๆ สวดบูชาระลึกถึงพระพุทธเจ้าก็ดี สวดเพื่อคุ้มครองตัวเราก็ดี พระคาถานั้นๆจะมีพุทธานุภาพมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับตัวผู้สวดเป็นสำคัญ หากเรามีศีล 5 รักษาไม่ให้ขาดตกบกพร่อง และหมั่นสร้างกุศล + บุญบารมีอยู่เสมอไม่ขาดช่วง สิ่งเหล่านี้ก็เหมือนกับกำแพงแก้วคอยเป็นเกราะคุ้มกันเราจากสิ่งเลวร้ายทั้งหลายไป 1 ชั้นแล้ว....พอสวดมนต์หรือคาถาใดๆ
....ก็จะช่วยเสริม + เป็นเกราะกำบังให้เราอีก 1 ชั้น ช่วยให้รอดพ้นจากสิ่งไม่ดีต่างๆไปได้
บทสวดมนต์ที่สวดประจำ จัดทำเป็น link มาให้แฟนเพจได้สวดกันครับ
ขออุทิศแด่บิดามารดาญาติสนิทมิตรสหายครูบาอาจารย์เจ้ากรรมนายเวร..._/\_
หน้าที่เข้าชม | 2,696,078 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 2,096,461 ครั้ง |
เปิดร้าน | 27 ก.ย. 2558 |
ร้านค้าอัพเดท | 16 ส.ค. 2568 |