สมเด็จท่านจะคุ้มครองคนดี
ลูกศิษย์ : อยากถามเรื่องพระสมเด็จน่ะครับ ถึงตอนยุคนี้ก็ผ่านมาร้อยกว่าปีแล้ว แต่ทำไมอำนาจแห่งพลังพุทธคุณยังมีอยู่ในพระสมเด็จ แล้วอำนาจพุทธคุณนี้จะสามารถลดน้อยลงได้มั้ย ถ้าลดน้อยลงได้เพราะเหตุใด ถามเป็นความรู้ครับ แล้วก็มวลสารที่สร้าง ที่เป็นเนื้อดินธรรมดากับธาตุกายสิทธิ์เหล็กไหลเนี่ยครับ อำนาจพุทธคุณจะแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไรครับ
หลวงปู่ : อันว่าพระสมเด็จนั้นจะมีความศักดิ์สิทธิ์ความขลังเพียงใด ก็ขอให้โยมจงรู้ไว้ว่า..ตราบใดพระคาถาชินบัญชรยังมีคนกล่าว ยังมีคนสวด ยังมีคนภาวนา ยังมีคนสาธยาย ยังมีคนนับถือและศรัทธาในปฏิปทาท่านสมเด็จ อำนาจแห่งพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ อิทธิปาฏิหาริย์ในธาตุกายสิทธิ์ทั้งหลายที่เจ้าประคุณสมเด็จโตได้อธิษฐานจิตลงไปนั้นก็ยังคงมีอยู่ มิเสื่อมคลาย ตราบเท่าจนกว่าบุคคลนั้นจะหมดศรัทธาไป..อยู่ถึง ๕๐๐๐ ปี เข้าใจมั้ยจ๊ะ
เพราะว่าเจตนาของท่านสมเด็จโตหรือว่าครูบาอาจารย์ ไม่ว่าจะเป็นท่านสังฆราชสุก ไก่เถื่อนก็ดี ที่สร้างพระอรหัง หรือสมเด็จอรหังขึ้นมาก็ดีนี้ ล้วนแล้วแต่มีจุดมุ่งหมายมุ่งเน้นเพื่อการสืบสานศาสนา ตามรอยครูบาอาจารย์ ให้เป็นปฏิปทาถาวรของศาสนาสืบไปอย่างนี้
คำว่าสิ่งที่โยมถาม ความศักดิ์สิทธิ์มวลสารทั้งหลายจะมีความเสื่อมไปอย่างไรก็ตาม..อยู่ด้วยอำนาจจิต เมื่อจิตเข้าถึงความบริสุทธิ์หลุดพ้นจากสิ่งทั้งปวงที่ไม่ยึดมั่นถือมั่นแล้ว สิ่งทั้งหลายนั้นก็จะเป็นอมตะของธาตุ..คือหลุดพ้น เมื่อหลุดพ้นจึงว่าความเป็นความวิมุต
เมื่อเป็นความวิมุตจึงไม่มีติดในสมมุติ เพื่อให้สำหรับคนทั้งหลายได้ยึดถือ เพิ่มพูนในศรัทธา เพื่อจะได้สร้างความดีและบารมีสืบไป นั้นหมายถึงเมื่อมันหลุดพ้นจากความเป็นสมมุติเสียแล้ว แม้ว่าจะอยู่ในสิ่งใดที่เป็นอัปมงคล สิ่งอัปมงคลทั้งหลายที่ยึดถือว่าเป็นอัปมงคล ก็สิ่งนั้นแลที่ท่านสมเด็จโตท่านได้ข้ามสมมุติไปแล้ว จะถือว่าเป็นอัปมงคลแล้วทำให้วัตถุมงคลทั้งหลายนั้นเสื่อมจากพุทธคุณไป..ก็หาไม่ เข้าใจมั้ยจ๊ะ
ลูกศิษย์ : งั้นยกตัวอย่าง ใส่พระสมเด็จหลวงปู่ไปเดินลอดราวตากผ้า จะมีผลมั้ยครับ หรือไม่เกี่ยว
หลวงปู่ : อ้อ..จะบอกว่าพระสมเด็จใครสร้างจ๊ะ มันเป็นของโยมโยมก็ต้องรักษา อันว่าราวผ้าแล้วโยมไปข้ามไปลอดก็ดี จะหาความเสื่อมมันก็ไม่ได้เป็นอย่างนั้นไม่ เข้าใจมั้ยจ๊ะ ก็ฉันบอกกล่าวไปล่วงหน้าแล้วสักครู่นี้ว่า สมเด็จท่านข้ามสมมุติไปแล้ว ราวผ้าโยมบอกเป็นราวผ้า ราวผ้าเมื่อก่อนก็ไม่ได้เป็นราวผ้า มีคนสมมุติว่าให้เป็นราวผ้า เมื่อก่อนมันอาจจะเป็นอะไรซักอย่างก็ได้ ใช่มั้ยจ๊ะ
ดังนั้นเมื่อสมเด็จท่านข้ามสมมุติบัญญัติไปแล้ว จึงว่าไม่มีอะไรที่จะไปติดหรือข้องได้..ก็หาว่าพุทธคุณนั้นน้อยลงเลย ที่มันน้อยลงเพราะศรัทธาเราไม่ถึง ศรัทธาเราเสื่อมเองว่าพระองค์นี้เมื่อไปลอดราวผ้าแล้ว จึงทำให้มันเสื่อมลง ไม่เอาดีกว่า ต้องไปหาองค์ใหม่มาห้อยซะดีกว่า เข้าใจมั้ยจ๊ะ
ลูกศิษย์ : คนส่วนใหญ่จะเข้าใจผิดกันเยอะน่ะครับ
หลวงปู่ : ก็ลองพิจารณาดู ฉันก็ไม่ได้มาขายพระสมเด็จนะ ก็ฉันก็พูดตามเหตุปัจจัยอย่างนั้น เพราะท่านก็กล่าวอย่างนั้น เข้าใจมั้ยจ๊ะ
ลูกศิษย์ : หลวงปู่พูดถึงศรัทธา บังเอิญผมได้พระสมเด็จมาองค์หนึ่ง ซึ่งไม่ใช่หลวงปู่ได้อธิษฐานจิตไว้เลย แต่ผมมีศรัทธา องค์นี้ก็จะศักดิ์สิทธิ์เหมือนกันมั้ยครับ ถ้าสมมุติว่ามีพี่คนนึงเอาพระสมเด็จมาให้ ซึ่งจริงๆแล้วพระสมเด็จเนี่ยะหลวงปู่ไม่ได้อธิษฐานจิต เหมือนของปลอมที่ใครเค้าพูดกันเนี่ยะ แต่ผมศรัทธาหลวงปู่ผมก็แขวนแล้วอธิษฐาน สวดชินบัญชรตลอดเวลาอธิษฐาน อย่างนี้ก็ศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัวอยู่แล้ว ถูกต้องมั้ยครับ
หลวงปู่ : ก็ไม่รู้ว่าโยมศรัทธาจริงรึเปล่า ถ้าศรัทธาจริงก็ศักดิ์สิทธิ์ ถ้าศรัทธาไม่ถึงก็ปลุกท่านสมเด็จไม่ตื่น ถ้าเราศรัทธาถึงสมเด็จท่านถึงจะตื่น คำว่าตื่นแล้ว เบิกบานแล้ว ไม่เศร้าหมองแล้ว ข้ามแม้ในสิ่งที่ยึดถือ..ว่าอันนี้จริงหรือไม่จริงนั่นแล สมเด็จท่านถึงจะตื่น เข้าใจมั้ยจ๊ะ ความศักดิ์สิทธิ์อยู่ตรงนั้น แม้โยมไม่ห้อยสมเด็จ เอาไปเปลี่ยนเป็นอิฐ หิน ปูน ทรายมาปั้นรวมกันก็ดี จะว่าเป็นขี้หมาก้อนหนึ่งก็ดี ถ้าโยมเอามาเสกแล้ว เข้าถึงแล้วในพระรัตนตรัย สิ่งทั้งหลายมันก็เป็นธาตุกายสิทธิ์ได้ทั้งนั้น
โยมว่าขี้หมานี่ใช่ธาตุทั้ง ๔ มั้ยจ๊ะ ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ รึเปล่าจ๊ะ (ลูกศิษย์ : ใช่) เออ..เอามาปั้นรวมกันฉันว่ามันก็ขลังดีนะ นั่นหมายถึงว่าเมื่อเราเข้าถึงในพระรัตนตรัย มีศรัทธาต่อครูบาอาจารย์ อธิษฐานบารมีลงไปนั้นแล ท่านก็มาประสิทธิ์ประสาทให้อย่างนี้แล
ดังนั้นของที่ท่านสมเด็จท่านทำไว้ ก็เพื่อให้ลูกหลานในภายภาคหน้า ได้มีบุญวาสนาได้มาเป็นที่พึ่งพาอาศัย เอามายึดเหนี่ยวจิตใจ ปกป้องคุ้มครองภัย บวกกับพระคาชินบัญชรพระคาถานี้แล เพื่อเอามาสวดเจริญสติ เจริญปัญญา เจริญบารมีให้เกิดขึ้น ให้เข้าถึงในพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ ให้เข้าถึงกระแสพระรัตนตรัย คือความสงบกายสงบใจ
เมื่อความสงบกายสงบใจมันบังเกิด สมาธิมันก็บังเกิด ปัญญามันก็บังเกิด วิปัสสนาญาณมันก็บังเกิดนั้นแล อย่างนี้ถึงจะพ้นภัยได้ ถึงจะเอาตัวรอด เข้าใจมั้ยจ๊ะ ถ้าโยมบอกว่าองค์นี้ไม่แท้เค้าไม่รับรอง แล้วสิ่งไหนเล่าจะรับรองได้ ความดีต่างหากที่จะรับรอง นั่นหมายถึงว่าสมเด็จท่านจะคุ้มครองคนดี..
แล้วโยมว่าโจรใช่เป็นคนดีรึเปล่าจ๊ะ อ้าว..คำว่าโจรไม่ใช่เป็นคนชั่วนะจ๊ะ เพราะคนที่ไม่ใช่เป็นโจรก็เป็นคนชั่วก็มี ใช่รึเปล่าจ๊ะ (ลูกศิษย์ : ใช่ครับ) โยมต้องดูว่าสันดานคนดีคนชั่วเป็นอย่างไร ทำไมเค้าถึงเป็นโจร เพราะเค้ามีวิบากกรรม..ต้องดู เพราะฉะนั้นแล้วสมเด็จท่านจะรักษาแต่คนดี คนดีหมายถึงว่าคนที่มีดี คนที่มีโอกาสที่จะดีได้ แต่คนที่ดีไม่ได้แล้วให้ห้อยพระประธานวัดระฆังมาก็ช่วยไม่ได้หรอกจ้ะ เข้าใจมั้ยจ๊ะ ท่านก็คงไม่ยิ้มตอบด้วยอย่างนี้ ก็หามีประโยชน์อันใดไม่
แล้วสิ่งนี้ก็อย่าได้ไปยึดติดมันมากนัก เข้าใจมั้ยจ๊ะ คำว่าอิทธิปาฏิหาริย์มันเสื่อมได้ เสื่อมจากเรา เมื่อมันไม่ให้ผลแล้วเราก็เสื่อมถอย เข้าใจมั้ยจ๊ะ พอไม่ได้ดั่งใจเราก็..ว๊า..องค์นี้ไม่ศักดิ์สิทธิ์ ไปหาที่มันศักดิ์สิทธิ์จะดีกว่า เมื่อเรามองข้ามสิ่งเหล่านี้ไปแล้ว เราก็จะเรียกว่าข้ามบัญญัติไป
ไม่ว่าจะเป็นวัตถุมงคลทั้งหลายที่ครูบาอาจารย์เค้าประสิทธิ์ประสาท ได้อธิษฐานจิตสร้างขึ้นมา ล้วนแต่มีเหตุมีปัจจัยมุ่งหวังเพื่อบำรุงพระศาสนา เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของลูกหลานให้เข้าถึงความดีทั้งนั้น หากเรายึดแล้วเราไม่ถึงความดี เราก็ไม่ถึงพระ เราก็ไม่ถึงท่านสมเด็จ เข้าใจมั้ยจ๊ะ
ท่านก็เลยทิ้งพระคาถาชินบัญชรไว้ อย่างน้อยไม่มีสมเด็จมาห้อยคอ อย่างน้อยเราก็สวดชินบัญชรภาวนาปลุกเสกตัวเราขึ้นมานั้นแล ให้กายก็ดี ให้ใจก็ดี ให้มันเป็นกายสิทธิ์ คำว่ากายสิทธิ์คืออะไร สามารถเข้าถึงการสร้างบารมีได้ เอาชนะตนเองได้อย่างนี้แล ปราบความถือดีถือตนของตนเองได้
คนที่เค้ามีสมเด็จแล้ว เข้าถึงสมเด็จแล้ว เค้าจะมีความอ่อนน้อมถ่อมตน นั่นก็คือมีเมตตาเป็นที่ตั้ง ไปที่ไหนคนก็รักคนก็เมตตา เข้าใจมั้ยจ๊ะ นั่นเรียกว่ามีสมเด็จแท้จริง เพราะสมเด็จท่านในจริยวัตรปฏิปทาท่าน..ท่านไม่ถือตัวนั่นเอง เข้าใจมั้ยจ๊ะ
ที่มา : มูลนิธิเมืองธรรมพรหมรังสี สมเด็จพระพุฒาจารย์โต
อานิสงส์การสวดพระคาถาชินบัญชร