พลังแห่งคุณงามความดีไม่สูญสลายไปไหน ยังคงอยู่ในจักรวาล . . . บารมีเหล่านี้ดำรงอยู่ในสภาวะรูปแบบพลังงานที่มีความถี่ต่างๆ มีผู้ส่งที่แน่นอน และเชื่อมต่อหยิบยืมพลังงานเหล่านี้ด้วยศรัทธาของผู้รับ
คำว่า ศรัทธา คำสั้นๆแต่แฝงไว้ด้วยความเชื่อที่ตั้งมั่น เพียรถ่อมใจลดละอัตตาตัวตน หมั่นเตือนตน สอนตน ตำหนิตน ขัดเกลากิเลสจนไม่เหลืออัตตาตัวตนที่เป็นต้นเหตุแห่งทุกข์ได้ในที่สุด . . . ศรัทธา จึงเป็นเหตุผลเดียวที่นำพาสู่การปลดปล่อยตัวตนอันสูงส่งผ่านเงื่อนไขการเสียสละ และการให้อภัยทั้งหมดทั้งสิ้น

. . . โลกจะวุ่นวายเพียงใด หากมนุษย์เต็มไปด้วยอัตตาและพอกพูนด้วยกิเลส เห็นแต่ตัวกู ของกู มนุษย์เหล่านี้จึงเร่าร้อน มักเพ่งโทษแต่ผู้อื่นและจ้องเหลื่อมล้ำห้ำหั่นกันตลอดเวลา แม้เป็นเพียงเงาก็เหยียบไม่ได้ . . . หากแต่มนุษย์นั้นยังคงมีศรัทธา เชื่อในคุณงามความดี เชื่อในกฏแห่งกรรม จะไม่เสียเวลาสงสัยในกรรมของใครว่าจะไม่เที่ยง จึงหมั่นเพียรละเสียสละ เพราะศรัทธาตั้งมั่นในคุณงามความดี หากแม้นมีคนมาพรากของรักสมบัติล้ำค่าไป ก็ยังเมตตา เสียสละและให้อภัยได้
ศรัทธา จึงไม่ใช่แค่สิ่งงมงายไร้แก่นสาร แต่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวที่ทรงพลังสูงสุดสำหรับจิตใจ เพื่อเข้าถึงการสร้างคุณงามความดี อริยทรัพย์ สมบัติภายใน หรือ บุญ ความจริงหนึ่งเดียวที่เป็นเหตุผลของการเกิดมามีชีวิต . . .
